ประสบการที่ผมได้ไปงานวันวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเชียงไหม่ผมรู้เรืองเกี่ยวกับพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทยว่าตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 ประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย ตกเป็นเป้าหมายของการขยายตัวของอารยธรรมตะวันตก และจักรวรรดินิยมตะวันตก ซึ่งมีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอันก้าวหน้าเป็น ฐานพลัง ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตการณ์ทางประวัติศาสตร์นั้น "มหาบุรุษ" ผู้หนึ่งได้ก้าวเข้ามา รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของประชาชาติสยาม ด้วยจิตสํานึกอันกว้างไกลและลึกซึ้ง ทั้งในทาง ประวัติศาสตร์และวิทยาการสมัยใหม่ สามารถดําเนินรัฐศาสนโยบายนําประเทศสยามจากการสูญเสีย อธิปไตย โดยวางรากฐานในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าและสอดคล้องกับวิถีความเจริญของโลกมหาบุรุษนั้น คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งบรมราชจักรีวงศ์ พระองค์ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2347 ทรงเป็นพระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ เสด็จขึ้นครองราช สมบัติเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2394 พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะในการศึกษาภาษาต่างประเทศ ตลอดจนวิทยาการสมัยใหม่ ทรงสนพระทัยในวิชาคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์ ซึ่งได้นําไปสู่ เหตุการณ์อันสําคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ไทย กล่าวคือ ได้ทรงคํานวณทาง ดาราศาสตร์พบว่า จะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง เห็นได้ ณ ท้องฟ้าที่ตําบลหว้ากอ แขวงเมือง ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นการคํานวณล่วงหน้าถึงสองปี และแล้วในวันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 เวลา 11 นาฬิกา 36 นาที 22 วินาที ปรากฏการณ์ได้อุบัติขึ้น เกิดสุริยุปราคาเต็ม ดวง ตรงตามวัน เวลา และสถานที่ ตามที่พระองค์ได้ทรงคํานวณไว้ทุกประการ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ผลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ และครั้งแรกของชาติไทย จนเป็นที่เลื่องลือในวงการดาราศาสตร์ทั่วโลก นับเป็น เหตุการณ์ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ซึ่งแม้แต่ชาวต่างประเทศยังยกย่องสรรเสริญอย่างกว้างขวาง ทําให้สยามประเทศยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับประเทศที่เจริญแล้วได้อย่างสง่าผ่าเผย การเสด็จ พระราชดําเนินไปทอดพระเนตรการเกิดสุริยุปราคาในครั้งนี้ เป็นเหตุให้ทรงประชวรด้วยไข้ มาลาเรีย และเสด็จสวรรคตในวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 รวมพระชนมายุได้ 64 พรรษา และรวมเวลาครองราชสมบัติได้ 17 ปี นับว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระปรีชาสามารถยิ่ง ทรงเป็นผู้บุกเบิก และผู้นําทางวิทยาศาสตร์ของประเทศเป็นพระองค์แรก ชาวไทยจึงพร้อมใจกันเฉลิมพระเกียรติคุณ อันยิ่งใหญ่ และถวายพระราชสมัญญานามพระองค์ท่านว่า "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย"ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 ประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย ตกเป็นเป้าหมายของการขยายตัวของอารยธรรมตะวันตก และจักรวรรดินิยมตะวันตก ซึ่งมีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอันก้าวหน้าเป็น ฐานพลัง ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตการณ์ทางประวัติศาสตร์นั้น "มหาบุรุษ" ผู้หนึ่งได้ก้าวเข้ามา รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของประชาชาติสยาม ด้วยจิตสํานึกอันกว้างไกลและลึกซึ้ง ทั้งในทาง ประวัติศาสตร์และวิทยาการสมัยใหม่ สามารถดําเนินรัฐศาสนโยบายนําประเทศสยามจากการสูญเสีย อธิปไตย โดยวางรากฐานในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าและสอดคล้องกับวิถีความเจริญของโลกมหาบุรุษนั้น คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งบรมราชจักรีวงศ์ พระองค์ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2347 ทรงเป็นพระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ เสด็จขึ้นครองราช สมบัติเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2394 พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะในการศึกษาภาษาต่างประเทศ ตลอดจนวิทยาการสมัยใหม่ ทรงสนพระทัยในวิชาคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์ ซึ่งได้นําไปสู่ เหตุการณ์อันสําคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ไทย กล่าวคือ ได้ทรงคํานวณทาง ดาราศาสตร์พบว่า จะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง เห็นได้ ณ ท้องฟ้าที่ตําบลหว้ากอ แขวงเมือง ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นการคํานวณล่วงหน้าถึงสองปี และแล้วในวันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 เวลา 11 นาฬิกา 36 นาที 22 วินาที ปรากฏการณ์ได้อุบัติขึ้น เกิดสุริยุปราคาเต็ม ดวง ตรงตามวัน เวลา และสถานที่ ตามที่พระองค์ได้ทรงคํานวณไว้ทุกประการ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ผลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ และครั้งแรกของชาติไทย จนเป็นที่เลื่องลือในวงการดาราศาสตร์ทั่วโลก นับเป็น เหตุการณ์ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ซึ่งแม้แต่ชาวต่างประเทศยังยกย่องสรรเสริญอย่างกว้างขวาง ทําให้สยามประเทศยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับประเทศที่เจริญแล้วได้อย่างสง่าผ่าเผย การเสด็จ พระราชดําเนินไปทอดพระเนตรการเกิดสุริยุปราคาในครั้งนี้ เป็นเหตุให้ทรงประชวรด้วยไข้ มาลาเรีย และเสด็จสวรรคตในวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 รวมพระชนมายุได้ 64 พรรษา และรวมเวลาครองราชสมบัติได้ 17 ปี นับว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระปรีชาสามารถยิ่ง ทรงเป็นผู้บุกเบิก และผู้นําทางวิทยาศาสตร์ของประเทศเป็นพระองค์แรก ชาวไทยจึงพร้อมใจกันเฉลิมพระเกียรติคุณ อันยิ่งใหญ่ และถวายพระราชสมัญญานามพระองค์ท่านว่า "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย"

Advertising Zone    Close